ภาพตลาดน้ำอัมพวาสองฝั่งคลองเป็นห้องแถวไม้ปลูกติดกันเป็นแนวยาวเกือบ500 ห้องเรียงรายสองฝั่งคลอง “น้องภามดูโน้นสิ โอ้โห!!มีต้นจิงเกิ้ลเบล เยอะแยะเลย” ...น้องนีรเรียกน้องชายดูหิ่งห้อยบนต้นลำภูที่เห็นว่าเหมือนต้นคริสมาสต์ติดไฟแว๊บๆในเทศกาลปีใหม่ ทุกค่ำคืนหิ่งห้อยนับล้านตัวมากระพริบไฟที่ต้นลำภูตลอดสองฝั่งคลองสร้างรอยยิ้มและความสุขง่ายๆให้กับผู้มาเยือน
อำเภออัมพวา และอำเภอบางคนทีอยู่ในจังหวัดสมุทรสงคราม (เป็นจังหวัดที่เล็กที่สุดในประเทศไทย) มีแม่น้ำแม่กลองเป็นเส้นเลือดหลักที่มีคลองสาขากว่า 300 สาย และลำกระโดง (คลองซอย) กว่า 2,000 สาย เป็นเส้นเลือดฝอยไปหล่อเลี้ยงเรือกสวนไร่นา แม่กลองเป็น “เมืองสามน้ำ” คือน้ำจืด น้ำกร่อย และน้ำเค็ม ทำให้เกิดอาชีพที่หลากหลาย ทั้งประมงชายฝั่ง นาเกลือสวนมะพร้าว และสวนผลไม้ แค่ไม่ถึงชั่วโมง (ประมาณ 70-80 กม.) จากกรุงเทพฯ เราก็ได้สัมผัสกับความสุขง่ายๆ จากลำน้ำ จากหิ่งห้อย จากสวนมะพร้าว จากตลาดน้ำ จากบ้านทรงไทย จากดนตรีไทย จากชีวิตที่ไม่ต้องรีบเร่ง ฯลฯ แล้วก็จากเด็กๆและคนที่มากับเราไง ถึงจะเป็นจังหวัดเล็กๆแต่มีที่ท่องเที่ยวให้แวะเวียนมาได้เรื่อยๆไม่รู้เบื่อ ที่ท่องเที่ยวมีให้เลือกมากมาย ก๊วนชวนเที่ยวจะบอกต่อโปรแกรมที่เราชื่นชอบซึ่งสามารถออกเที่ยวสายๆแล้วกลับค่ำๆ (หากหลงใหลกับธรรมชาติและวิถีชีวิตผู้คนก็พักค้างคืนได้ มีที่พักให้เลือกตามความชอบ จะเป็นรีสอร์ท หรือโฮมสเตย์) โปรแกรมบอกต่อ
13:00-14:00 น. ออกจากกรุงเทพฯ ไปบ้านเรือริมคลองใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ขึ้นทางด่วน (บางนา-ดาวคะนอง) ขับไปตามทางดาวคะนองแล้วตามป้ายไปสมุทรสงครามลงถนนพระราม2 (ทางไปเพชรบุรี) ตรงไปประมาณ 60-70 กม. จะข้ามสะพานแม่น้ำแม่กลองพอลงสะพานให้ชิดซ้ายเลี้ยวเข้าถนนขนานเพื่อกลับรถไปฝั่งขาเข้ากรุงเทพฯ กลับรถแล้ววิ่งบนถนนขนานสวนกับถนนใหญ่ขาเข้ากรุงเทพฯ ตรงไปไม่ไกลจะเห็นป้ายกิตติค้าไม้หน้าซอยทางขวามือ เลี้ยวเข้าซอยขับตามทางบังคับไปไม่ไกลมีทางแยกบังคับเลี้ยวซ้ายหรือขวาให้เลี้ยวซ้ายไปถนนธนบุรีปากท่อ(สายเก่า) ตรงไปประมาณ 6 กม. จะมีป้ายชื่อร้านบ้านเรือริมคลองทางซ้ายมือเลี้ยวเข้าซอยอีกนิดเดียวก็ถึงที่หมาย เรือเช่าเหมาลำคิดค่าบริการ 450 บาท นั่งได้ 6-8 คน 14:00 -17:00 น. เรือออกจากบ้านเรือริมคลอง (น้ำจืด) ชมวิถีชาวบ้านริมคลองยามบ่าย -ชมบ้านดนตรีไทย (ที่วัดภุมรินทร์) -ชมโบสถ์ไม้สัก (จำนวน 7 แผ่นสร้างโบสถ์ 1 หลัง) ที่วัดบางแคน้อย -ชมอุทยาน ร.2 (สถานที่สมภพ ร.2 ปัจจุบันเป็นอาคารเรือนไทย 4 หลังจัดเป็นพิพิธภัณฑ์แสดงศิลปะวัตถุสมัย ต้นรัตนโกสินทร์) -เที่ยวตลาดน้ำอัมพวา ชมห้องแถวไม้บานประตูเฟี้ยม ปลูกติดกันเป็นแนวยาวเกือบ 500 ห้องอยู่สองฝั่งคลอง แวะซื้อของกิน ของฝาก (มีของฝากทำจากกะลามะพร้าวน่ารักมากๆ) -ชมค่ายประวัติศาสตร์บางกุ้ง (สถานที่พระเจ้าตากสินตั้งค่ายสู้กับพม่าที่เข้ามาตีเมืองราชบุรีและด่าน เจดีย์สามองค์) -ชมการเคี่ยวน้ำตาลมะพร้าวแท้ๆ ของจังหวัดสมุทรสงคราม -ชมเบญจรงค์ปิ่นสุวรรณที่ผลิตของชำร่วยให้ผู้เข้าประชุม APEC 17:00-18:30 น. พักผ่อนทานอาหารเย็น ที่บ้านเรือริมคลองเป็นร้านอาหารไทยสะอาดอร่อย (ก๊วนเราให้ 5 ดาว) แล้วก็มีห้องพักบนเรือ 2 ลำ เก๋ไก๋ น่านอน ราคาอาหารก็ประมาณจานละ 80 บาทขึ้น (หากต้องการทานอาหารราคาประหยัดกว่านี้ก่อนถึงเราบ้านเรือริมคลองจะมีร้านอาหารชื่อเพื่อน และนายแกละ) เรือเช่าเหมาลำคิดค่าบริการ 350 บาท นั่งได้ 6-8 คน 18:30 – 19:30 น. ชมหิ่งห้อยนับล้านตัวที่ต้นลำภู สามารถสัมผัสได้อย่างใกล้ชิด ชมวิถีชาวบ้านริมคลอง 19:30 น. เดินทางกลับกรุงเทพฯ ก่อนพาเด็กๆขึ้นรถควรพาไปแปรงฟัน ล้างหน้าเช็ดตัวเปลี่ยน ชุดนอน ขึ้นรถเด็กๆหลับปุ๋ยสบายใจ ถึงบ้านก็เข้านอนได้เลย อีกทางเลือกหนึ่งของการวางแผนเที่ยว ชม อุทยาน ร.2 – บ้านพญาซอ – นั่งเรือชมหิงห้อยที่ตลาดน้ำอัมพวา เส้นทางจากกรุงเทพฯ ขึ้นทางด่วน (บางนา-ดาวคะนอง) ขับไปตามทางแล้วตามป้ายไปสมุทรสงครามลงถนนพระราม2 (ทางไปเพชรบุรี) ตรงไปประมาณ 60 กม. กว่าๆ จะเห็นป้ายบอกทางเลี้ยวซ้ายขึ้นสะพานไปอุทยาน ร.2 ออกเดินทางจากกรุงเทพฯ ซักประมาณบ่ายโมงก็จะถึงอุทยาน ร.2 ประมาณบ่าย 2 โมง ที่นี่เป็นบ้านเรือนไทยจัดแสดงข้าวของเครื่องใช้ส่วนพระองค์ เดินเล่นประมาณ 1 ชั่วโมงขับเลยไปอีก 3 กม. แวะบ้านพญาซอ ที่นี่เป็นบ้านของครูสมพร เกตุแก้ว ครูสอนดนตรีไทยและช่างทำซอฝีมือเยี่ยมคนหนึ่งของเมืองแม่กลอง พญาซอ เป็นซอที่กะโหลกทำจากกะลามะพร้าวที่มีรูปร่างดี เป็นทรงหัวใจ มีตากะลาที่โหนกนูน 3 ตา เป็นกะลาที่หายาก เสียงซอที่ได้จะไพเราะพราะพริ้งกว่าซอที่มีกะโหลกทำจากกะลาทั่วๆไป นอกจากนี้ยังมีการแสดงหุ่นกระบอกให้ชมด้วย (ติดต่อชมล่วงหน้าและเสียค่าชมกลุ่มอย่างน้อย 10 คน ค่าชมคน ละ 30 บาท โทร. 0 3476 1949)ประมาณสักบ่าย 4 – 5 โมง ขับย้อนกลับมาทางอุทยาน ร.2 เลยทางเข้าอุทยานไปนิดเดียวจะเห็นทางเลี้ยวเข้าวัดเป็นที่จอดรถสำหรับคนมาตลาดน้ำอัมพวา เดินเข้าไปในตลาดจะมีของกินของใช้ตลอดสองข้างทางถึงริมคลอง ที่ท่าน้ำมีเรือเช่ารายคนหรือเหมาลำนั่งออกไปชมหิ่งห้อยได้ ที่ริมคลองมีร้านชื่อที่พักของใจ ขายภาพถ่ายหมา แมว และภาพวิวต่างๆ สวยงามมาก หากติดใจอยากค้างคืนที่ปากคลองอัมพวามี Home Stay เรือนไม้สะอาดน่าอยู่ราคาไม่แพง ส่วนมากวันเสาร์มักจะเต็ม ควรจะโทรจองก่อนล่วงหน้า บ้านนี้ให้เช่าได้ทั้งหลัง โทร. 034 751 146 หรือ 081 347 6699 ข้อมูล อาหารเครื่องดื่ม***** อาหารที่บ้านเรือริมคลองอร่อยมากขอบอก ห้องน้ำ **** ห้องน้ำชักโครงสะอาด ห้องน้ำหญิงสวยและใหญ่มากด้วย ข้อมูล **** ติดต่อเช่าเรือที่บ้านเรือริมคลองโทร. 034-767299 หรือ 01-8235544ค่าพักแรมบ้านเรือ 2 คนแรก 1,500 บาท รวมอาหารเช้าและขนมไทย คนที่ 3-8 คนละ 500 บาท เด็กอายุไม่เกิน 10 ขวบคิดครึ่งราคา (บ้านเรือน่าอยู่มากเป็นเรือไม้ลำใหญ่ตั้งอยู่บนบก) เวลาเหมาะสม -ตลาดน้ำอัมพวาเป็นตลาดน้ำเย็นเริ่มบ่าย 3 โมง มีเฉพาะวันศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ สามารถท่องเที่ยวได้ทั้งปี แต่ต้องเลือกไปวันที่ฝนไม่ตก เที่ยวแล้วอ่าน -ธรรมชาติหรรษา “หิ่งห้อย” เรื่องน้านกฮูก ภาพ พรเนตร อร่ามมงคลชัย สำนักพิมพ์ แฮปปี้คิดส์ ราคา 95 บาทดูหิ่งห้อยกลับมาเด็กๆคงสนใจอยากรู้เรื่องหิ่งห้อยกันแล้วหนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือภาพเชิงสารคดีสำหรับเด็กปฐมวัยถึงวัยประถมให้รู้จักวงจรชีวิตของหิ่งห้อยและรู้ประโยชน์ว่าหิ่งห้อยใช้เป็นแสงนำทางของคนสมัยก่อนด้วย -ชุดโลกพิศวง “แมลงปีกแข็ง” เรื่องโดย จอห์น สติลล์ ถ่ายภาพโดย จอห์น เดวิสและเจน เกดี บ.นิวเจนเนอเรชันพับลิชชิ่ง จำกัด (หนังสือสาราณุกรม) เที่ยวแล้วเล่น เรือของฉัน นั่งเรือชมหิงห้อย ชมสวนผลไม้ สวนมะพร้าวแล้วน่าจะได้ที ชวนลูกประดิษฐ์เรือเล่นกันวัสดุอุปกรณ์จะใช้ของธรรมชาติอย่างกะลามะพร้าว กาบมะพร้าว ใบตอง แล้วเอามาตกแต่ง หรือ ใช้เศษวัสดุ(ขยะ) เช่นขวดน้ำพลาสติก หรือ กล่องนม กล่องน้ำผลไม้ เล่นให้สนุกก็ตั้งถามลองให้ลูกทายก่อนว่าวัสดุไหนลอยน้ำได้ อ่านหนังสือให้ความรู้เรื่องเรือแล้วลองเขียนบนกระดาษโปสเตอร์แผ่นใหญ่ช่วยกันทำ ช่วยกันจัดนิทรรศการเล่นกับลูกที่บ้านกัน ร้องเล่นดนตรี เที่ยวบ้านครูสมพรแล้วอาจคันไม้คันมืออยากทำดนตรีเล่นเองบ้างลองใช้เศษวัสดุ ขวดแก้ว กระป๋องน้ำ ใส่เมล็ดถั่วชนิดต่างๆลงไป แต่ละภาชนะให้ใส่เมล็ดถั่วประเภทเดียวกัน ใส่เมล็ดถั่วเสร็จก็ปิดปากขวดด้วยลูกโป่ง ส่วนปากแก้วก็ใช้ถุงพลาสติดครอบปิด แล้วแต่งหน้าแต่งตาแต่งตัวให้เครื่องดนตรี ทำเสร็จแล้วฝึกเด็กฟังเสียงที่แตกต่างของภาชนะที่ต่างกัน กับเมล็ดถั่วที่ต่างกัน ลูกโป่งจะอยู่ได้แค่อาทิตย์กว่าๆก็จะเหี่ยว นีรถามแม่ว่าทำอย่างไรไม่ให้ลูกโป่งเหี่ยวเราก็เลยลองทำเปเปอร์มาเช่ ฉีกกระดาษสีทากาวปะทับลูกโป่ง
Add as favourites (812) | Quote this article on your site
|