นี่เป็นครั้งแรกที่เรามีคุณพ่อใจดีส่งบทความดีๆมาให้แบ่งปันกับเพื่อนๆสมาชิกครอบครัวตัวต่อ ดร.ปัณฑ์ ปานถาวร และภรรยา กำลังหาข้อมูลเพื่อใช้เป็นแนวทางในการดูแลลูกสาวปฐมวัย คุณพ่อส่งบทความภาษาอังกฤษ ที่ไม่ได้จดลิขสิทธ์ชื่อ Excitement Deprives Children of Happiness- By Dennis Prager มาให้แม่จาแปลบอกต่อให้เพื่อนๆสมาชิกครอบครัวตัวต่อของเราอ่านกันค่ะ ต้องขอขอบคุณด้วยใจจริงสำหรับการแบ่งปันสิ่งดีๆให้กับลูกๆของเรา หากใครมีบทความหรือความคิดเห็นดีๆอยากแบ่งปันส่งอีเมลล์มาได้เลยนะคะ แม่จาจะได้นำขึ้นเว็บไซต์ของเราแห่งนี้ มาช่วยกันสร้างสังคมดีๆให้ลูกๆของเรา ความตื่นเต้นกีดกั้นความสุขของเด็กๆ เขียนบทความโดย เดนิส แพ็รกเกอร์ ถ้าคุณต้องการให้เด็กๆเป็นผู้ใหญ่ที่มีความสุขหรือแม้แต่เป็นเด็กที่มีความสุข (ผู้ปกครองควรหยุดทำอะไร) ต้องลดความตื่นเต้นในชีวิตของเด็กๆ การที่เด็กยิ่งมีความตื่นเต้นมากเท่าไร ดูเหมือนว่าเขาก็จะมีความสุขน้อยลง ทั้งผู้ใหญ่และเด็ก แต่ละคนอาจแสวงหาความตื่นเต้น หรือแสวงหาความสุข แต่คนเราไม่สามารถกระทำได้ทั้งสองอย่าง ถ้าเราแสวงหาความตื่นเต้นเราก็จะไม่ได้รับความสุข แต่ถ้าเราแสวงหาความสุขเราจะยังคงได้ประสบการณ์ของช่วงเวลาแห่งความตื่นเต้นบ้าง แต่คุณจะได้รับความสุขก็ต่อเมื่อความสุข (ไม่ใช่ความตื่นเต้น) คือเป้าหมาย เมื่อเราให้ของขวัญแก่เด็ก ประสบการณ์ที่เด็กได้รับคือความตื่นเต้น และเราก็ดีใจที่เห็นเขามีความสุข ถ้าเป็นการให้ในโอกาสสำคัญๆเช่นวันเกิด วันหยุดพิเศษ นี่เป็นการกระทำที่เหมาะสมและเป็นประโยชน์ เด็กๆควรได้รับช่วงเวลาพิเศษที่น่าจดจำไปนานแสนนานกับของขวัญสำหรับวันคริสต์มาส หรือวันเกิด แต่เพราะเรามักจะดีใจกับการตื่นเต้นของเด็กๆในช่วงเวลานั้นเพราะเราคิดว่าเค้ามีความสุข นี่เป็นเหตุให้เราตกหลุมพรางได้ง่ายๆในการที่จะหาสิ่งของมาให้เด็กๆมากขึ้นๆเพื่อให้เด็กๆตื่นเต้นซึ่งดูเสมือนว่าเค้ามีความสุขในทุกช่วงขณะ นี่เป็นผลที่ทำให้เด็กผูกตัวเองติดกับความรู้สึกตื่นเต้นเพื่อให้เขามีความสุขจนทำให้เข้าใจว่าความตื่นเต้นคือความสุข แต่ความตื่นเต้นไม่ใช่ความสุข ในความเป็นจริงมันคือยาเสพติดที่รุนแรง ความตื่นเต้นคือสิ่งที่ผู้คนแสวงหาเมื่อเข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องยาเสพติด มีเพศสัมพันธ์กับคู่นอนหลายคน การพนัน การไม่ซื่อสัตย์กับคู่ครอง หรือแม้กระทั่งอาชญากรที่ก่ออาชญากรรมก็เพราะความตื่นเต้นคือเครื่องล่อทำให้ก่อพฤติกรรมความรุนแรงขึ้น อาจมีข้อโต้แย้งว่าก็คนเราได้ถูกตั้งโปรแกรมให้มีความรู้สึกอยากตื่นเต้น ไม่เพียงเท่านี้เรายังถูกตั้งโปรแกรมให้มีความขี้เกียจไม่รับผิดชอบต่อการกินอาหารที่ไม่มีคุณภาพ และมีสัญชาตญาณธรรมชาติที่นำเราไปสู่ความสุข หรือความตื่นเต้น ทุกวันนี้คนรุ่นใหม่มีความสามารถที่จะรับประสบการณ์ความตื่นเต้นมากกว่ายุคใดๆในประวัติศาสตร์ นอกรั้วโรงเรียนความตื่นเต้นเกิดขึ้นเกือบตลอด 24 ชั่วโมง 7 วัน ดูMTV ก็ตื่นเต้น(MTV เป็นรายการที่ทำลายคนรุ่นนี้มากกว่าโรงงานผลิตบุหรี่) VDO เกมส์ ก็น่าตื่นเต้น กระตุ้นทั้งทางเพศและความตื่นเต้น สักบนผิวหนังก็ตื่นเต้น ภาพมากมายใน VDO บนอินเทอร์เน็ตก็ตื่นเต้น รายการที่ทำให้เด็กๆตื่นเต้นมียาวร่ายกันได้เป็นวันๆ แต่ความตื่นเต้นนี้เป็นตัวขวางกั้นทำให้เด็กๆไม่สามารถมีความสนุกและมีความสุขในชีวิต ความตื่นเต้นทั้งหลายทำให้หนุ่มสาวอ่อนเพลียไม่ใช่มีความสุข มีตัวอย่างง่ายๆที่เห็นได้ชัดเช่น ทุกวันนี้เด็กๆปฎิเสธที่จะดูหนังขาวดำ เขาบอกว่าเพราะมันน่าเบื่อ แม้กระทั่งภาพยนตร์สีที่ดีๆเขาก็ยังปฎิเสธถ้ามันไม่มีความตื่นเต้น (โดยปกติหมายถึงความรุนแรง แต่บางทีก็หมายถึงภาษาลามกและมีเนื้อหาเกี่ยวกับเพศสัมพันธ์ ) นี่คือเหตุผลว่าทำไมจึงมีแต่คำบ่นว่า ?ฉันรู้สึกเบื่อ? บ่อยครั้งที่คำนี้คือสัญลักษณ์ของเด็กที่อ่อนล้า นั่นก็คือเด็กเสพติดกับความตื่นเต้นดังนั้นจึงไม่สามารถมีความสุขกับชีวิตถ้าไม่มีความตื่นเต้น ความตื่นเต้นทั้งหลายในชีวิตของเด็กๆเป็นลางร้ายของความสุขในอนาคตของเด็กอเมริกัน ในชีวิตจริง ชีวิตประจำวันมันดูจะน่าเบื่อจนเค้าไม่สามารถมีความสนุกกับมัน และเด็กส่วนมากก็จะแสวงหาความตื่นเต้นให้ชีวิตตลอดเวลา และบ่อยครั้งความตื่นเต้นนี้เป็นไปในทางทำลายทั้งตัวเองและผู้อื่น ทางแก้ปัญหาดูจะเป็นเรื่องง่ายๆแต่อาจยากที่จะปฎิบัติ จำกัดความตื่นเต้นในชีวิตของเด็กๆ จำนวนวีดีโอเกมส์ จำกัดรายการโทรทัศน์ที่ไร้สาระ ลดการฟังดนตรีที่มุ่งเอาความตื่นเต้น ถ้าเด็กๆรู้สึกเบื่อเค้าจะต้องเยียวยาอาการเบื่อด้วยการ เล่นกับเพื่อน หางานอดิเรก คุยกับสมาชิกในครอบครัว พาสุนัขเดินเล่น ร้องเพลงประสานเสียง อ่านหนังสือหรือนิตยสาร เรียนดนตรี เรียนภาษาต่างประเทศ ฝึกจำเมืองหลวงของแต่ละรัฐ เขียนเรื่องราวที่คิด เล่นกีฬา หรือเพียงแค่นั่งคิดเฉยๆ ยิ่งเรากีดกันความตื่นเต้นในชีวิตให้เด็กตั้งแต่ยังเยาว์วัย เด็กๆก็จะคงความบริสุทธิ์ได้ยาวนาน นั่นคือไม่อ่อนล้า และจะมีความสุขที่แท้จริง ตราบเท่าที่เด็กๆยังอยู่ในบ้านและหวังว่าอยู่ภายใต้ความปกครองของพ่อแม่เราสามารถล้างพิษจากความตื่นเต้นได้ ถ้าคุณทำเด็กๆอาจจะเกลียดคุณในวันนี้แต่เขาจะรู้สึกขอบคุณเมื่อเวลาผ่านไป ซึ่งมันดีกว่าการที่เด็กๆรักเราในวันนี้แต่จะเกลียดคุณภายหลัง ในการเป็นผู้ปกครองนี่คือทางเลือกที่เราควรกระทำ
|