ชวนอ่านระฆังเบิกบาน อีเมล์
เขียนโดย น้าแต้ว   
เสาร์, 28 กรกฎาคม 2007

     จากการที่น้าแต้วแนะนำหนังสือน่าอ่านไปแล้วสามถึงสี่ครั้งให้กับสมาชิกก๊วนชวนอ่าน ได้เอาไปใช้ไปอ่านสนุกกับลูกหลานที่บ้าน เป็นอย่างไรกันบ้างคะ ได้ผลหรือไม่ได้ผล สนุก ไม่สนุกอย่างไร อย่าลืมส่งข่าวคราวมาเล่าสู่กันด้วยนะคะ
     เดือนนี้น้าแต้วมีหนังสือสวยงามอีกเล่มหนึ่งของครูชีวัน ที่จะมาชวนกันอ่าน เล่มนี้เป็นหนังสือที่ครูชีวันลงทุนควักกระเป๋าจัดพิมพ์เอง ... คงไม่ใช่เพราะครูชีวันร่ำรวยหรือเพราะอยากรวย ... แต่อยากให้มีหนังสือที่ดีที่เหมาะสม และน่าอ่านให้เด็กๆฟังอีกเล่มหนึ่ง
     โดยอย่าเพิ่งตัดสินว่า หนังสือแบบนี้เด็กจะไม่ชอบ จนกว่าเราจะนั่งลงอ่านหนังสือให้เด็กฟังด้วยตัวเอง

Image

                                            
     ระฆังเบิกบาน เป็นหนังสือภาพสำหรับเด็กที่แฝงธรรมะเอาไว้อย่างลึกซึ้ง ระฆังเบิกบาน คือความหมายของการทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด แม้ดูเหมือนว่าหน้าที่ที่ทำอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันนั้นเป็นเรื่องปกติธรรมดา ไม่เกี่ยวข้องส่งผลกับใครหรือสิ่งใด แต่ในความจริงแล้วไม่ได้เป็นเช่นนั้นเลย ทุกสิ่งล้วนเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกันทั้งสิ้น เช่นเดียวกับระฆังใบน้อยนี้
     เรื่องเนื้อ ระฆังเบิกบาน พูดถึงระฆังใบหนึ่งที่แขวนอยู่บนกิ่งไม้ ทุกๆวันเณรน้อยจะมาเคาะระฆัง    เณรน้อยเคาะระฆังทุกวัน ระฆังส่งเสียงดังกังวานไปไกล แต่แล้ววันหนึ่งระฆังเกิดเบื่อขึ้นมา จึงบอกให้เณรน้อยหยุดเคาะระฆัง เมื่อเณรน้อยหยุดระฆัง ก็ไม่เกิดเสียงดังกังวาน... ไก่ที่เคยขันขับขานก็เงียบหงอย ผู้คนที่เคยเบิกบานก็เงียบเหงา ดอกไม้ที่เคยแบ่งบานก็เหี่ยวเฉา ระฆังเองก็เศร้าสร้อยจนตัวเองรู้สึกได้ จึงขอให้เณรน้อยกลับมาเคาะระฆัง ทุกสิ่งที่เคยเงียบเหงาก็กลับเบิกบานอีกครั้ง
     ระฆังเบิกบาน บอกอะไรแก่เด็กๆ...ช่วยกันคิด

     ระฆังเบิกบาน กับการพัฒนาประสาทสัมผัสของเด็กเล็ก
     ถ้าสังเกตให้ดีจะพบว่าหนังสือเล่มนี้มีเรื่องของเสียงที่เด่นชัดมาก เช่น เสียงของระฆัง เสียงไก่ขัน เสียงเณร (พระ)สวนมนต์ สำหรับเสียงสามเณรนั้น อาจจะไม่มีภาพปรากฏในหนังสือ แต่เด็กสามารถคิดต่อได้ เราใช้ระฆังเบิกบานฝึกฝนให้เด็กๆได้เปิดรับสัมผัสทางหูอย่างตั้งใจ หากบ้านใครอยู่ใกล้วัดก็จะได้เปรียบมาก พาเด็กเดินไปเคาะระฆัง เคาะเบาๆ เคาะแรงๆ เคาะแล้วเว้นนานๆ เคาะถี่ๆ ใช้ไม้ใหญ่ ใช้ไม้เล็กสลับกัน แล้วลองฟังดูสิว่า เด็กๆได้ยินเสียงต่างกันอย่างไร ในความแตกต่างนี้เด็กเล็กๆอาจจะยังแยกไม่ได้ และโอกาสเองที่ผู้ปกครองจะเป็นผู้ชี้แนะแยกแยะให้เด็กๆลองฟังอย่างตั้งใจ

     เสียงไก่ขันก็คือเสียงไก่ขัน เด็กๆหรือแม้แต่ผู้ใหญ่เองก็แยกแยะไม่ออก ถ้าไม่เคยหยุดตั้งใจฟัง ไก่แต่  ละตัวขันเสียงคล้ายกันแต่ไม่เหมือนกัน พ่อไก่ แม่ไกก็ส่งเสียงขันฟังต่างกัน ลูกเจี๊ยบก็ส่งเสียงอีกแบบหนึ่ง        ไก่แต่ละสายพันธุ์ก็ขันเสียงต่างกัน
 Image
     เสียงพระสวดมนต์ เป็นเสียงโทนต่ำจึงมีผลต่อคลื่นสมอง ช่วยให้เกิดความรู้สึกสงบและพร้อมที่จะเรียนรู้ วันวัดนี้ลองพาเด็กๆไปวัด ฟังเสียงพระสวดบ้างก็จะเป็นผลดีต่อคลื่นสมอง ด้วยว่าชีวิตของคนเมืองในปัจจุบัน เราแทบไม่เคยมีโอกาสให้เด็กๆอยู่ในที่ที่สงบเงียบเลย
     ถ้าคุณพ่อคุณแม่หาโอกาสพาเด็กๆฟังพระสวดมนต์บ้างก็จะเป็นเรื่องที่ดี แม้จะพวกเขาไม่เข้าใจความหมายแต่เสียงสวดมนต์มีผลทำให้เด็กๆเกิดสมาธิ ในครั้งแรกอาจจะยากสักหน่อย จึงไม่ควรให้เด็กๆนั่งอยู่นานเกินไปในการฟังพระสวดมนต์ครั้งแรกๆ แต่ถ้าได้พาเด็กๆเข้าวัดฟังพระสวดมนต์บ่อยๆ เด็กๆก็จะรู้จักปรับตัว รู้จักนั่งนิ่งๆ รู้จักความสงบ
     การอ่านระฆังเบิกบาน แล้วพาเด็กๆมาวัดก็ถือว่า นำการอ่านมาเชื่อมโยงกับการเที่ยว เพราะการมาวัดก็ถือเป็นการมาเที่ยวสำหรับเด็กๆ คราวนี้เมื่อกลับถึงบ้านก็พาลูกเล่นกับกิจกรรมที่แม่จา นำมาแนะนำกัน   ในก๊วนชวนเล่นต่อไป

     ระฆังเบิกบานกับการพัฒนาประสาททางจมูก
     นอกจากการฟังเสียงที่มองเห็นเด่นชัดมากในหนังสือเล่มนี้ เรายังสามารถใช้กิจกรรมกระตุ้นประสาทการดมกลิ่นของเด็กๆได้ นั่นคือ กลิ่นดอกไม้
 Image
     ผู้ใหญ่อาจจะหาดอกไม้จากรอบๆมาให้เด็กๆได้ดม หรือพาลูกๆเดินดูเดินดมดอกไม้ใกล้ๆบ้าน เพื่อฝึกประสาทสัมผัสในการดมกลิ่นของเด็กๆ ไม่ต้องใช้อุปกรณ์หรือความสามารพิเศษใดๆเลยเมื่อเด็กดมดอกไม้แล้วอาจจะแยกแยะได้เพียง กลิ่นหอมกับไม่หอมเท่านั้น ความจริงพวกเขาจะได้กลิ่นหอมที่แตกต่างกันออกไป     แต่จากประสบการณ์ชีวิตที่น้อยนิดจึงบอกไม่ได้ว่าดอกไม้หอมแตกต่างกันอย่างไร อย่างน้อยที่สุดเด็กๆก็ได้รับรู้แล้วว่า กลิ่นหอมนั้นก็มีความแตกต่าง
 

     ระฆังเบิกบานกับการพัฒนาประสาทสัมผัสทางผิวกาย
     เมื่อพาเด็กๆเคาะระฆังที่วัดแล้ว ลองให้เด็กๆใช้ฝ่ามือหรือหลังมือแตะระฆังดูว่ารู้สึกอย่างไร เย็นถ้าระฆังอยู่ในร่ม และอุ่นหรือร้อนเมื่อระฆังอยู่กลางแดด (ผู้ใหญ่อธิบาย) จากนั้นลองให้เด็กใช้ฝ่ามือลูบผิวระฆังดูว่าเรียบหรือขรุขระ และลองลูบเปลือกต้นไม้ดูว่าแตกต่างกับผิวของระฆังหรือไม่ (ผู้ใหญ่แนะนำเด็กๆ)

 Image


     ส่วนการรับรู้ทางใจ เป็นความรู้สึกที่เป็นนามธรรมและยากต่อการอธิบายให้เด็กเล็กๆเข้าใจ คือความรู้สึกที่มีต่อสิ่งใดหรือการกระทำใดๆ ผู้ใหญ่สามารถช่วยบอกเด็กๆถึงความรู้สึกยินดีเบิกบาน เศร้า เหงาหงอยให้เด็กๆเข้าใจได้อย่างง่ายๆ โดยอธิบายผ่านความรู้สึกที่แสดงออกทางสีหน้าของเณรน้อย ของผู้คน หรือแม้แต่ท่าทางการแสดงออกของไก่ ดอกไม้ และระฆัง เพื่อให้เด็กๆได้เรียนรู้จักเรื่องอารมณ์
        

Image


     ต่อแต่นี้ เมื่อได้หนังสือดีๆมาสักเล่มหนึ่ง คุณพ่อคุณแม่อย่าลืมใช้ให้คุ้มนะคะ รับรองว่า เด็กๆลูกๆของเราจะต้องสนุก ผู้ใหญ่ก็จะสนุกทั้งได้คิด ได้ลงมือทำงานไปพร้อมกับลูก และสำคัญกว่านั้นคือ เด็กๆของเราจะได้เรียนรู้และก้าวหน้าไปเรื่อยๆอย่างมีความสุข

Image


Add as favourites (627) | Quote this article on your site

Comments (2)
21-03-2008 03:47
 
พัฒนาทักษะของเด็กดีจ ังครับ :)
ผู้เยี่ยมชม
 
ผู้มาเยี่ยม
09-07-2009 08:50
 
สานรัก อิ่มบุญอุ่นใจ  
ชวนครอบครัวทำบุญในวั นอาสาฬหบูชาและวันเข้ าพรรษาปีนี้ แล้วส่งภาพมาโพสต์ที่ เว็บสานรักนะคะ เรามีของที่ระลึกมอบใ ห้คุณค่ะ  
 
เอไอเอสขอเชิญชวนพุทธ ศาสนิกชนชาวไทยทุกท่า น มาร่วมกันปฏิบัติบูชา ด้วยการถือศีล ปฏิบัติธรรม เวียนเทียน และฟังพระธรรมเทศนา ช่วยขัดเกลาจิตใจและส ืบทอดวัฒนธรรมอันดีงา มของชาวพุทธให้คงอยู่ คู่คนไทยและ ประเทศไทยตราบนานเท่า นาน 
 
ถ่ายภาพครอบครัวของคุ ณขณะปฏิบัติบูชาในวัน อาสาฬหบูชา (๗ กค.) หรือวันเข้าพรรษา(๘ กค.) ปีนี้ แล้วส่งมาโพสต์ที่เว็ บสานรัก ในอัลบั้มภาพครอบครัว ผู้โชคดี 100 ท่านแรกจะได้รับของที ่ระลึกเป็นกระเป๋าสาน รักพับได้ ส่งให้คุณถึงบ้านเลยค ่ะ! 
http://www.sarnrak.net/activity/caldesc.php?n=90701134953
ผู้เยี่ยมชม
 

เขียน Comment
ชื่อ:
E-mail
BBCode:Web AddressEmail AddressBold TextItalic TextUnderlined TextQuoteCodeOpen ListList ItemClose List
Comment:



Code:* Code